Secondary

Languages

กยศ. ร่วมกับ สกมช. และ AIS ขยายผลหลักสูตร 'อุ่นใจไซเบอร์' เสริมทักษะดิจิทัล สร้างภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์ ให้นักเรียน นักศึกษา และกลุ่มผู้กู้ยืม พร้อมสะสมชั่วโมงจิตสาธารณะ

กยศ. ร่วมกับ สกมช. และ AIS ขยายผลหลักสูตร 'อุ่นใจไซเบอร์' เสริมทักษะดิจิทัล  สร้างภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์ ให้นักเรียน นักศึกษา

                                         10 ตุลาคม 2567

กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และ AIS ร่วมภารกิจสร้างภูมิคุ้มภัยไซเบอร์ เดินหน้าขยายผลการเรียนรู้หลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์หลักสูตรการเรียนรู้ด้านทักษะดิจิทัลที่ได้รับรองจากกระทรวงศึกษาธิการให้เป็นไปตามมาตรฐานของหลักสูตรการศึกษาไทยไปยังนักเรียนระดับมัธยมปลายสายสามัญ สายอาชีพ กลุ่มอาชีวศึกษา และนักศึกษาในระดับอุดมศึกษา เพื่อให้เยาวชนไทยได้เรียนรู้การป้องกัน รับมือ หรือแม้แต่การลดความเสี่ยงจากการใช้งานดิจิทัลที่อาจมีภัยคุกคามทางไซเบอร์แฝงมาในทุกรูปแบบ พร้อมยังได้สะสมชั่วโมงจิตสาธารณะได้ 3 ชั่วโมง

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา กล่าวว่า “การทำงานร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และ AIS ในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างความตระหนักรู้ให้นักเรียน นักศึกษาผู้กู้ยืม และเจ้าหน้าที่สถานศึกษาให้มีทักษะรู้เท่าทันภัยคุกคามไซเบอร์ที่แฝงมากับการใช้บนออนไลน์ และยังได้สะสมชั่วโมงจิตสาธารณะเพิ่มเติมได้อีก 3 ชั่วโมง เพราะวันนี้กลุ่มนักเรียน นักศึกษาผู้กู้ยืมต้องมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับกระบวนการกู้ยืมและชำระเงินคืนแบบออนไลน์ผ่านระบบดิจิทัล การมีความรู้ในการรับมือและป้องกันภัยไซเบอร์ จึงเป็นแนวทางหลักที่จะช่วยลดความเสี่ยงจากการโดนหลอกลวงและหยุดภัยไซเบอร์ได้ผ่านหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์ที่ได้มาตรฐานรองรับจากกระทรวงศึกษาธิการ และเราเชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการยกระดับให้เยาวชนผู้กู้ยืมและบุคลากรของกองทุนฯ มีทักษะพร้อมเป็นพลเมืองดิจิทัลที่มีคุณภาพต่อไป"

พลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ กล่าวต่อไปอีกว่า “ภารกิจสำคัญของ สกมช. คือการมุ่งมั่นในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ เพื่อยกระดับประเทศให้มีความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์อย่างมีประสิทธิภาพ สกมช. จึงได้เร่งหารือร่วมกับ กยศ. และ AIS บูรณาการร่วมมือระหว่างกัน สนับสนุนและส่งเสริมการเรียนรู้หลักสูตรออนไลน์ “อุ่นใจไซเบอร์” ให้แก่นักเรียน นักศึกษา ผู้กู้ยืม กยศ. เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง และสามารถนับชั่วโมงการเรียนรู้เป็นกิจกรรมจิตสาธารณะเป็นจำนวน 3 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นความสำเร็จร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย ในการผลักดันกิจกรรมดังกล่าวให้เกิดเป็นรูปธรรมและถือเป็นการทำงานเชิงรุกในการสร้างการตระหนักรู้ ให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ มีภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์ สามารถปรับตัวในการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพและใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งการทำงานร่วมกับ กยศ. และ AIS ในครั้งนี้ถือเป็นวาระสำคัญที่จะช่วยทำให้การทำงานร่วมกับของภาคส่วนต่างๆ เกิดการบูรณาการและใช้ขีดความสามารถร่วมกันในการวางรากฐานด้านความปลอดภัยไซเบอร์ โดยสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงด้านภัยไซเบอร์ให้แก่ นักเรียน นักศึกษาผู้กู้ยืมจากกองทุน รวมถึงบุคลากรทางการศึกษาให้รู้เท่าทันและสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์และงานธุรกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า “การส่งเสริมการใช้งานดิจิทัลอย่างมีความรับผิดชอบ ถูกต้อง ปลอดภัย และสร้างสรรค์ คือหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของ AIS ในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยวันนี้เรามุ่งเป็นแกนกลางของสังคมในการสร้างเครือข่ายขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาภัยไซเบอร์ อย่างการพัฒนาหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์ หลักสูตรด้านดิจิทัลที่ถูกพัฒนาให้เป็นไปตามมาตรฐานของหลักสูตรด้านการศึกษาไทย ซึ่งครอบคลุมทักษะการใช้งานบนโลกดิจิทัล ได้แก่ Practice ปลูกฝังให้มีความรู้ ความเข้าใจในการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างถูกต้องและเหมาะสม, Personality แนะนำการปกป้องความเป็นส่วนตัวบนโลกอออนไลน์, Protection เรียนรู้การป้องกันภัยไซเบอร์ บนโลกออนไลน์ และ Participation รู้จักการปฏิสัมพันธ์ ด้วยทักษะและพฤติกรรมการสื่อสารบนโลกออนไลน์อย่างเหมาะสม

โดยที่ผ่านมาเราได้ทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อส่งต่อหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์ไปยังกลุ่มเป้าหมายของแต่ละองค์กร ซึ่งวันนี้มีคนไทยเข้าเรียนในหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์แล้วกว่า 390,000 คน และครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือครั้งสำคัญผ่านการทำงานร่วมกับ สกมช. และ กยศ. ที่จะเป็นการส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษากลุ่มผู้กู้ยืมจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ได้มีทักษะดิจิทัลรู้เท่าทันทุกภัยไซเบอร์ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการทำงานอย่างสอดประสานกันในครั้งนี้จะช่วยทำให้เป้าหมายการทำงานของทั้งสามหน่วยงานบรรลุตามวัตถุประสงค์ และจะช่วยเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เยาวชนไทยสามารถใช้งานดิจิทัลอย่างเกิดประโยชน์พร้อมอยู่กับโลกดิจิทัลได้อย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์”

 

 

 

 

 

 

วันที่: 
10 ตุลาคม 2567